top of page
Open Site Navigation
  • Facebook
  • HTT Line-OA
  • Writer's pictureHealthtech Thailand

Health Tech กับความสำคัญของประเทศไทยในอนาคต





ในวันนี้ขอนำเสนอเรื่องการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุระดับสุดยอด​ นั่นก็เพราะอีก 10 ปีข้างหน้า ประเทศไทยเราจะมีคนแก่ที่อายุมากกว่า 60 ปีมากกว่า 20% ของคนทั้งประเทศ ซึ่งเป็นเกณฑ์ปกติของ “สังคมสูงอายุระดับสุดยอด” นั่นเอง

.

แล้วเราจะทำยังไงต่อไป? คำตอบคือ ไม่ต้องกังวลไป เพราะที่ผ่านมาประเทศไทยเราก็ได้มีการพัฒนาในส่วนของเทคโนโลยีการแพทย์ เพื่อที่จะทำให้ผู้ป่วยได้เข้าถึงการรักษาอย่างทั่วถึงที่สุด รวมถึง Teletech หรือการรักษาทางไกลผ่านระบบดิจิทัล บวกกับเทรนด์สุขภาพที่กำลังมาแรงอย่างสุด ๆ จึงทำให้เรามั่นใจได้ว่าถึงจะอายุเยอะแค่ไหนสุขภาพของคนไทยก็จะยังดีอยู่

.

ซึ่งเทคโนโลยีที่ว่านั้นก็ถูกพัฒนาโดยบริษัท Start-up ไฟแรงมากมาย อย่างเช่น

Vitaboost

เริ่มต้นที่ศูนย์เวชศาสตร์ชะลอวัยที่เชี่ยวชาญในการรักษาและดูแลร่างกายคุณด้วยวิตามินนานาชนิด โดยสามารถขอคำปรึกษาแพทย์ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ แถมที่นี่ยังมีโปรแกรม Vitalyzer ที่จะมาช่วยคำนวณปริมาณวิตามินที่เหมาะสมกับแต่ละคนอย่างแม่นยำ พร้อมส่งตรงถึงมือคุณอีกด้วย

Arincare

ถัดมาคือสตาร์ทอัพที่ช่วยให้การบริหารจัดการภายในร้านขายยาง่ายขึ้นกว่าที่เคย ด้วยระบบ e-Prescription และ e-Referral รวมถึงช่วยจดจำประวัติคนไข้ทุกคนแบบดิจิทัล ทำให้เภสัชกรและเจ้าของร้านขายยาทั่วประเทศทำงานได้ง่ายขึ้น ยอดขายก็เพิ่มขึ้น และที่สำคัญคนไข้ก็จะได้รับการดูแลที่ดียิ่งขึ้น

QueQ

ชื่อนี้คนส่วนใหญ่คงคุ้นเคยกันดี เพราะเป็นแอปที่ไว้จองคิวร้านอาหารแทบทุกร้านในประเทศ แต่เขาไม่ได้ทำแค่นั้น เพราะในปัจจุบัน QueQ สามารถใช้จองคิวในโรงพยาบาลได้อีกด้วย โดยที่ผ่านมา QueQ สามารถช่วยลดเวลาที่ผู้ป่วยต้องรอคิวในโรงพยาบาลได้มากถึง 500,000 ชั่วโมงต่อเดือน และปัจจุบันสามารถใช้งานได้มากกว่า 300 โรงพยาบาลทั่วประเทศ

Health at Home

ปิดท้ายกันด้วยสตาร์ทอัพที่ก่อตั้งโดยทีมอายุรแพทย์ เริ่มจากพัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยที่บ้านโดยผู้ดูแลมืออาชีพกว่า 300 คน และในเวลาถัดมาก็ได้พัฒนา Health at Home Care Center ขึ้นมาเพื่อให้บริการครบวงจรกับผู้สูงอายุที่ไม่สะดวกอยู่ที่บ้าน แต่ให้ความรู้สึกเหมือนบ้าน ซึ่งจะมีผู้ดูแลมืออาชีพและแพทย์ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง และปัจจุบันก็ดูแลไปแล้วกว่า 1,000 เคสทั่วประเทศ

.

เห็นแบบนี้แล้วนอกจากผู้ป่วยหรือว่าคนทั่วไปที่จะมาใช้บริการสตาร์ทอัพเหล่านี้แล้ว นักลงทุนที่มองเห็นถึงอนาคตของวงการแพทย์และสุขภาพในไทยก็ไม่ควรพลาดที่จะลองศึกษาและลงทุนก่อนใครนะ เพราะโอกาสที่จะเป็นส่วนหนึ่งของยูนิคอร์นตัวถัดไปของประเทศไทยอาจเป็นคุณก็ได้!

.

จบการรายงานข่าว HTT Monday News ประจำวันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2564 ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามข่าวสารสุขภาพไปพร้อมกันกับเรา

.

สนับสนุนข่าวสารดี ๆ แบบนี้โดย Health Tech Thailand 2021


………………………………………………………..


7 views0 comments
bottom of page